วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกครั้งที่4 วันศุกร์ที่5 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


                                                                  บันทึกอนุทิน





 Knowledge

       ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

4.เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา(Children With Speech and Language Disorders)


                                       



เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด(IQ ปกติ)

หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียนพูด


  1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง
  2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
  3. ความบกพร่องของเสียงพูด




ความบกพร่องทางภาษา

หมายถึงการขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้

1.การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย(Delayed Language)

  • มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
  • มีความผิดปกติของไวยากรณ์
  • ไม่สามารถสร้างประโยคได้
  • ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วนๆ
2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพสมอง โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia

  • อ่านไม่ออก =>เขียนได้
  • เขียนไม่ได้=>พูดได้ชัดเจน
  • สะกดคำไม่ได้
  • ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
  • จำคำหรือประโยคไม่ได้
  • ไม่เข้าใจคำสั่ง
  • พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้

ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา


  • ในวัยทารกมักเงียบ ร้องไห้เบาๆและอ่อนแรง
  • ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ10เดือน
  • ไม่พูดภายในอายุ 2ขวบ
  • หลัง3ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
  • ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
  • หลัง5ขวบเด็กยังใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถม
  • มีปัญหาในการสื่อความหมาย
  • ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย



5.เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children With Physical and Health Impairments )



  • เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
  • อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
  • เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
  • มีปัญหาทางระบบประสาท
  • มีความลำบากในการเคลื่อนไหว



โรคลมชัก( Epilepsy)




  • เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
  • มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน


การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานในกรณีเด็กมีอาการชัก
  • จับเด็กนอนตะเองขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
  • ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
  • หาหมอนหรือสิ่งนิ่มๆรองศรีษะ
  • ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
  • จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
  • ห้ามน้ำวัตถุใดๆใส่ในปาก
  • ทำการช่วยหายใจโดยวิธีเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ




                
         ซี.พี. (Cerebral Palsy)      

              

  


  • การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด 
  • การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของสมอแตกต่างกัน

1.กลุ่มแข็งแกร็ง(Spastic)

1. spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
2. spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
3. spastic paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนล่าง
4. spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว



         2. กลุ่มที่มีอาการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง
         (athetoid ; ataxia)



    athetoid คือ อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบาง

      รายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย

 ataxia คือ มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน


3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง(Muscular Distrophy)
  • เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเสื่อมสลายตัว
  • เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
  • จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ สติปัญญาเสื่อม


           1. โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic)

           2. โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic) 

           3. โปลิโอ (Poliomyelitis)


  • มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก 
  • ยืนไม่ได้ หรือยืนได้ด้วยอุปกรณ์เสริม

           4. โรคระบบทางเดินหายใจ
          โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus )  

           5. โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)

           6. โรคมะเร็ง (Cancer)

           7. เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) 

           8. แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)



แขนขาด้วนแต่กำเนิด(Limb Deficiency)




ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ

- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว 
- ท่าเดินคล้ายกรรไกร
- เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
- ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ 
- มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง 
- หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว 
- หกล้มบ่อย ๆ
- หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ



             Activity


ดูวิดีโอ






Apply


เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันเนื่องจากความผิดปกติต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือความผิดปกติทางสมองเด็กทุกคนก็อยากได้โอกาสต่างๆและกำลังใจจากบุคคลรอบข้าง ในด้านการเรียนการสอนก็เช่นกันครูควรคำนึงถึงความแตกต่างของเด็กแต่ละคน และพัฒนาการของเด็กเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ





Assessment


 Classroom   บรรยากาศน่าเรียนสะอาดแอร์ไม่เย็นเกินไป ที่ไม่เหมาะในการทำกิจกรรม เทคโนโลยีไม่


พร้อมใช้งาน


 My Self    แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียน มีความพร้อมที่จะเรียน จดบันทึกและร่วมแสดงความคิดเห็น


Friends    แต่งกายเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดเพราะ มีความพร้อมที่จะเรียน


Teacher      มีความพร้อมที่จะสอน มีเทคนิคการสอนสอนสนุกนักเรียนเข้าใจง่าย มีความเอาใจใส่

นักเรียนทุกคนพูดจาไพเราะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น